พยาบาลสาวทนไม่ไหว ฝืนมาตรการกักตัวโควิด ออกไปซื้อชานมไข่มุก
พยาบาลสาวในสิงคโปร์คอตก เจอนอนคุกหลังฝ่าฝืนมาตรการคุมเข้าสถานการณ์โควิด-19 ด้วยนานาเหตุผล หนึ่งในนั้นคือออกไปซื้อชานมไข่มุกแก้อยาก
นูรุล โมฮัมเหม็ด พยาบาลสาววัย 22 ปี สังกัดโรงพยาบาลสิงคโปร์ โดนคำสั่งจากทางโรงพยาบาลให้กักตัวอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันหลังจากที่เธอเพิ่งกลับจากพักผ่อนวันหยุดที่ประเทศออสเตรเลียอันเป็นพื้นที่เสี่ยงเมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2020 ซึ่งตามมาตรการแล้วเธอต้องหยุดอยู่กับบ้านสังเกตอาการจนถึงวันที่ 4 เม.ย. ปีเดียวกันนั้น แต่กลายเป็นว่าเธอแอบฝ่าฝืนไม่กักตัว ออกไปพบปะผู้คนภายนอกอย่างน้อย 7 ครั้ง จนสุดท้ายเธอก็ติดโควิดจนได้
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
ไทม์ไลน์ของเธอเริ่มจากวันที่ 23 มี.ค. นูรุลออกจากบ้านขึ้นรถโดยสารประจำทางไปห้างสรรพสินค้า เพื่อไปซื้อชานมไข่มุกมาดื่ม ต่อมาในวันที่ 2 และ 3 เม.ย. เธอไปเยี่ยมเพื่อนที่กำลังตั้งครรภ์ถึงที่บ้านโดยไม่ได้สวมหน้ากากและไปช่วยจัดงานแต่งงาน ซึ่งต้องพบปะแขกเหรื่อหลายสิบคนภายในงานด้วย โดยที่ทุกคนในงานไม่รู้เลยว่าเธอเพิ่งกลับจากพื้นที่เสี่ยงและต้องกักตัวอยู่บ้าน
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
จนกระทั่งวันที่ 12 เม.ย. นูรุลเริ่มมีอาการไข้ เจ็บคอ จึงเดินทางไปโรงพยาบาลและตรวจพบเชื้อโควิด-19 เป็นบวก จึงถูกส่งตัวไปรักษาที่สถานดูแลชุมชน ก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 17 พ.ค. หลังตรวจพบเชื้อเป็นลบแล้ว แต่เนื่องจากการเผยไทม์ไลน์ของเธอ ทำให้พบว่าเธอจงใจละเมิดมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยการไม่กักตัวหลังกลับจากพื้นที่เสี่ยงหรือต่างประเทศ จนนำไปสู่การฟ้องร้องในชั้นศาลและผลสรุปออกมาว่า นูรุลยอมรับผิดและถูกศาลตัดสินให้จำคุก 7 สัปดาห์เริ่มตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. 2021 แม้จะยังไม่ปรากฏหลักฐานว่าเธอเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์หรือไม่ แต่จากความผิดนี้เธออาจถูกจำคุกสูงสุด 6 เดือน ปรับเป็นเงิน 10,000 เหรียญสิงคโปร์ (ราว 220,000 บาท) หรือทั้งจำทั้งปรับ...
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
(ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา)
ขอบคุณข้อมูลจาก: nextshark