ผู้กำกับชื่อดัง งานเข้ารัว ๆ จเรตำรวจ แจ้งข้อหาผิดวินัยร้ายแรง โทษหนัก ไล่ออก
สืบเนื่องจากกรณี ตำรวจ เป็น ผู้ต้องหา จากคลิป ก่อเหตุใช้ถุงคลุมศีรษะ นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาจน จากไป ล่าสุด ด้าน จเรตำรวจ ชี้ หากคณะกรรมการตัดสินว่า มีความผิดร้ายแรง ก็จะมีโทษตั้งแต่ให้ออกจากราชการ หรือ ไล่ออกจากราชการ โดยจะไม่ได้รับสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเบี้ยหวัดบำนาญ
21 กันยายน 2564 พล.ต.ท. สราวุฒิ การพาณิช รองจเรตำรวจ ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการตรวจสอบวินัยร้ายแรง ได้ประชุมสรุปข้อมูลก่อนแจ้งความเอาผิดวินัยร้ายแรงกับ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ "ผู้กำกับโจ้" อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ และพวกรวม 7 นาย กรณีทำร้ายร่างกาย ใช้ถุงดำคลุมหัว ผู้ต้องหาคดียาเสพติด จนเสียชีวิต
เกี่ยวกัยเรื่องนี้ พล.ต.ท.สราวุฒิ กล่าวว่า วันนี้เป็นการประชุมสรุปพิจารณาหลักฐานคดี "ผู้กำกับโจ้" ที่ได้รวบรวมมาทั้งหมด ตั้งแต่เริ่มมีการจับกุม สอบสวนขยายผล จนกระทั่งมีคลิปปรากฎการเสียชีวิต รวมทั้งการสอบปากคำชุดจับกุมทั้งหมด และผลการชันสูตรจากโรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ ว่าเป็นไปตามข้อเท็จจริงหรือไม่
หลังจากได้ข้อสรุป จะเดินทางไปแจ้งข้อกล่าวหากับ "ผู้กำกับโจ้" และอดีตตำรวจทั้งหมด ที่เรือนจำคลองเปรม โดยคณะกรรมการ จะให้สิทธิกับทั้ง 7 นาย ได้ชี้แจงโต้แย้งข้อกล่าวหา โดยให้กรอบระยะเวลา ไม่เกิน 15 วัน ส่งกลับมาให้คณะกรรมการจเรตำรวจอีกครั้ง เพื่อพิจารณา รวมถึงพิจารณาด้วยว่ามีพยานหลักฐานเพิ่มเติมหรือไม่ โดยจะใช้ระยะเวลาไม่เกิน 60 วัน ส่งให้กับผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พิจารณาโทษ ซึ่งมีทั้งให้ออกและไล่ออกจากราชการ
อย่างไรก็ตาม ความผิดในคดี "ผู้กำกับโจ้" ของแต่ละคนอาจจะไม่เหมือนกัน แตกต่างกันตามพฤติกรรม และหลักฐานที่ปรากฎ ส่วนรายละเอียด ขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งคณะจเรตำรวจจะดำเนินคดีอย่างโปร่งใส และตรงไปตรงมา เพื่อสร้างเชื่อมั่นให้กับประชาชน ว่าการทำงานคณะจเรตำรวจ จะไม่มีการช่วยเหลือกันอย่างแน่นอน แต่จะสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของสำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการแจ้งข้อหาในคดี "ผู้กำกับโจ้" ในส่วนของสำนักงานจเรตำรวจแห่งชาติ เป็นการดำเนินการไต่สวนในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ จเรตำรวจแห่งชาติ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อเอาผิดทางด้านวินัย
และหากมีความผิด ก็จะมีโทษความรุนแรงที่แตกต่างกันไป ตั้งแต่การลงโทษไม่รุนแรง อาทิ กักยาม กักบริเวณ ตัดเงินเดือน เป็นต้น ทั้งนี้ หากคณะกรรมการตัดสินว่า มีความผิดร้ายแรง ก็จะมีโทษตั้งแต่ให้ออกจากราชการ หรือ ไล่ออกจากราชการ โดยจะไม่ได้รับสิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับเบี้ยหวัดบำนาญ
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรือ "ผู้กำกับโจ้" ถูกจับกุม ได้ถูกดำเนินคดีหลายข้อหาด้วยกัน อาทิ คดีร่วมกันฆ่าหรือทรมาน โดยมีผู้ต้องหาที่เป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติดรวม 7 นาย , คดีกักขังหน่วงเหนี่ยว , คดีฆ่าโดยเจตนาโดยเล็งเห็นผล , คดีจับกุมรถ 410 คัน เพื่อกินส่วนแบ่งเปอร์เซ็นต์ ซึ่งมีการทำเป็นขบวนการ และอีกหลายคดี
ขอบคุณข้อมูลจาก : คมชัดลึก