4 คนดังกับแฟชั่น Unisex สไตล์ที่ไม่จำกัดเพศ
แฟชั่นไม่มีปิดกั้นในเรื่องเพศจริงๆ สำหรับ สไตล์ Unisex ที่ไม่มีเพศมาจำกัด ด้านการแต่งตัว การใช้เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับ ที่เหมาะกับทุกเพศทุกวัย ไม่เจาะจงว่าจะเป็นชาย หรือ หญิง ซึ่งแน่นอนวันนี้ทางเว็บไซต์จาม.คอมได้เก็บรวบรวมแฟชั่นวุดปังของเหล่าคนดัง ในวงการบันเทิงมาฝากจะมีใครบ้างไปชมกันเลย
1. พีพี กฤษฏ์
นักแสดงดาวรุ่งพุ่งเเรง 1 ในคนดังที่มีสไตล์การแต่งตัวที่หลากหลาย ที่ก่อนหน้านี้เธอเคยเผยว่า เรื่องของการแต่งตัวนั้น ตนนั้นแค่ใส่เสื้อผ้าในไซส์ของตัวเองในแบบที่ชอบ ตนไม่ได้มองว่าใส่ของผู้หญิงและต้องพูดว่า ตนใส่เสื้อผ้าผู้หญิง ในส่วนตัวนั้นรู้สึกว่าเสื้อก็คือเสื้อ กางเกงก็คือกางเกง ถ้าอยากจะใส่ก็ใส่เลย เพราะเป็นแบบที่เราชอบ ซึ่งแน่นอนว่าหลายๆ คนคงได้เห็นหนุ่มพีพีในลุคมากมาย กับแฟชั่นฉบับ Unisex ที่เต็มไปด้วยความเก๋ เละสดใสจริงๆ
2. เจมส์ ธีรดนย์
เรียกได้ว่าเป็นเจ้าพ่อแฟชั่น ที่ใครๆ ก็ต้องรู้จัก คือหนุ่ม “เจมส์ ธีรดนย์ หรือ เจมี่เจมส์” เรียกได้ว่าเป็นอีกคนที่มีไฟในการแต่งตัวกับแฟชั่นที่เปิดกว้างเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการนำเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมทช์ ที่ดูเข้ากันสุดๆ แถมยังเท่ในแบบของตัวเอง และล่าสุดในอินสตาแกรม ยังได้สร้างเสียงฮือฮาอีกครั้ง หลังหนุ่มเจมส์ ได้ลงภาพขณะสวมเสื้อเอวลอย อวดเอวที่เรียวบางทำคนบันเทิงต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็น หลังได้ชมแฟชั่นสไตล์ไร้เพศนี้ของหนุ่มเจมส์กันมากมายทีเดียว
3. ดัง พันกร
นักร้องเจ้าของบทเพลงดังมากมาย ในยุค 90 อย่าง "ดัง พันกร" ที่ชื่นชอบการแต่งตัว และโตมากับแฟชั่นแบบสุดๆ ซึ่งหลายครั้งในโซเชียลของเจ้าตัว คงได้มีโอกาสเห็นสไตล์การแต่งตัวแบบไร้ขีดจำกัดของหนุ่มดัง โดยเจ้าตัวเคยเผยว่า ในการใส่กระโปรงนั้น มองว่าใส่แล้วเป็นตัวเราเอง รู้สึกมั่นใจ มีกาลเทศะ ไปไหนมาไหนก็ให้เกียรติสถานที่ คือรู้สึกว่าการที่เราแต่งตัวแล้วมั่นใจ
4. ต้นหน ตันติเวชกุล
อีกหนึ่งคนที่ทลายกรอบการจำกัดเพศ กับในแฟชั่นของ "ต้นหน ตันติเวชกุล" ที่หลายครั้งเจ้าตัวมักจะมาในชุดกระโปรง ฉีกค่านิยมแบบเดิมๆ ที่เคยกำหนดไว้ ไม่ว่าเป็นแฟชั่นกระโปรง หรือแม้การทาเล็บ ซึ่งเจ้าตัวเคยเผยความรู้สึกไว้ว่า คุณอยากใส่อะไรก็ใส่ และเชื่อว่าหลายคนก็รู้สึกเหมือนตน ทำอะไรก็ได้ที่แฮปปี้และไม่เดือดร้อนคนอื่น เพราะฉะนั้นตอนที่เราทำ เราไม่ได้รู้สึกว่า คนจะต้องมาชื่นชอบเรา หรือเราจะได้รับผลตอบรับอะไรบางอย่างจากตรงนี้เพิ่มขึ้น เพราะรู้สึกว่าเทรนด์นี้มันมีมานานแล้ว
