สาวมีแรงฮึดลดน้ำหนักทันที หลังหมอยื่นคำขาด มีแค่ 2 ทางเลือกเท่านั้น
หญิงสาวผู้ต่อสู้กับโรคอ้วนมาเป็นเวลานับทศวรรษ ออกมาโพสต์ภาพชวนตาค้างกับความเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของเธอ ด้วยการผ่าตัดกระเพาะและออกกำลังกายอย่างต่อเนื่อง หลังหมอบอกกับเธอว่าไม่ลดน้ำหนัก ก็เตรียมตัวตายเลย!
นาตาลี วาร์กัส เจ้าหน้าที่เทคนิคด้านการผลิตยา วัย 28 ปี จากลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย เผยว่าเกือบครึ่งชีวิตของเธอต้องต่อสู้กับน้ำหนักที่มหาศาลของเธอเองเนื่องมาจากนิสัยตามใจปากและขาดการออกกำลังกายของเธอ โดยนาตาลีในวัย 28 ปีนี้มีน้ำหนักมากถึง 310 ปอนด์ (ราว 140 กิโลกรัม) ทำให้ต้องสวมเสื้อและกางเกงขนาด 4XL ตลอดเวลา
ด้วยน้ำหนักที่มหาศาลทั้งอายุยังน้อยแบบนี้ ทำให้เธอต้องเผชิญกับบรรดาโรคภัยจากภาวะน้ำหนักเกินอย่างไม่ขาดสาย ถึงขั้นหมอเตือนว่าตอนนี้สุขภาพของเธออยู่ในขั้นวิกฤตแล้ว โดยตรวจพบว่าเธอเป็นโรคเบาหวานขั้นที่ 2 หากไม่ลดน้ำหนักลงอาจหมายถึงชีวิตของเธอได้ เมื่อได้ยินจากปากหมอมาแบบนั้น นาตาลีตัดสินใจเลิกพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีทุกอย่าง เลิกติดของหวานของมัน เลิกปาร์ตี้แล้วเข้าสู่การออกกำลังกายอย่างหนัก ควบคุมอาหารอย่างเข้มงวด
แต่การออกกำลังกายของเธอต้องหยุดชะงักลงเนื่องจากเกิดอาการบาดเจ็บที่ข้อเข่า ซึ่งมีสาเหตุมาจากโรคอ้วนของเธอเอง นาตาลีเครียดมากคิดไม่ตกว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี ออกกำลังกายไม่ได้แล้วเพราะเข่าบาดเจ็บ แต่ถ้าไม่ออกกำลังกายลดน้ำหนักเธอก็ต้องจบชีวิตลง เมื่อไปปรึกษาหมอแล้วเธอจึงได้มา 2 ทางเลือก ทางแรกผ่าตัดข้อเข่าเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บที่เกิดจากภาวะน้ำหนักเกิน หรือเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารเพื่อลดน้ำหนักให้สมดุลและบรรเทาแรงกดทับบนข้อเข่าทั้งสองข้างของเธอ
สุดท้ายนาตาลีตัดสินใจผ่าตัดเอากระเพาะอาหารออกในแนวตั้ง เพื่อเป็นการลดขนาดหน้าท้องราว 80% เพื่อลดความอยากอาหารไปเมื่อเดือน ก.ย. ปีที่แล้ว หลังจากพักฟื้นจนหายดีแล้ว นาตาลีก็กลับมาใช้ชีวิตด้วยการออกกำลังกายตามเดิม ทำให้ในปัจจุบันนาตาลีมีน้ำหนักเหลือเพียง 160 ปอนด์ (ราว 72 กิโลกรัม) อาการปวดตามข้อเข่าหายไปจนสิ้น จากที่ชอบปาร์ตี้เปลี่ยนมาคลั่งไคล้การวิ่งมาราธอนตามชายหาดแทน นาตาลีจึงอยากฝากเรื่องราวของเธอไว้เพื่อเป็นกำลังใจแก่ทุกคนที่กำลังหรือยังไม่คิดจะลดน้ำหนักนี้ โดยหวังให้ทุกคนหันมารักตัวเอง ดูแลสุขภาพให้ดี เพราะคงไม่มีใครอยากไปได้ยินหมอพูดกับเราว่า "เลือกเอา ลดน้ำหนักหรือตาย" กันหรอก...
ขอบคุณข้อมูลจาก: DailyMail