เปิดบทสรุปมหากาพย์ดราม่า ไมค์ - ซาร่า ทุกอย่างจบลงด้วยดีเพื่อลูก
ยังคงเป็นเรื่องราวที่เหล่าชาวเน็ตยังให้ความสนใจอยู่เสมอเลยนะคะ สำหรับเรื่องราวการฟ้องร้องขอสิทธิเลี้ยงลูกดูระหว่าง ไมค์ พิรัชต์ และ ซาร่า คาซิงกินี และล่าสุดตอนนี้การเคลียร์สิทธิทุกอย่างก็จบลงได้ด้วยดีแล้วล่ะค่ะ
สืบเนื่องจากเรื่องราวมหากาพย์ดราม่าการฟ้องร้องขอสิทธิเลี้ยงดูบุตรร่วมระหว่าง ไมค์ พิรัชต์ และ ซาร่า คาซิงกินี ที่เคยเกิดขึ้นมานานหลายเดือนแล้วนั้น และเมื่อวานนี้ (4 มี.ค.) ทั้งคู่ก็ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวกลางตามนัดหมาย ซึ่งเป็นการเจรจาหาข้อตกลงเป็นครั้งที่ 3 และใช้เวลายาวนานกว่า 9 ชั่วโมงเลยทีเดียว และผลสุดท้ายก็มีการเคลียร์กันจบลงด้วยดี ทั้งคู่ต้องร่วมกันรับผิดชอบน้องแม็ก์เวลล์ทั้งเรื่องค่าเทอมและค่าเลี้ยงดูต่างๆ รวมถึงสิทธิ์ในการเจอหน้าลูกและการจดทะเบียนรับรองบุตร
โดยทาง ไมค์ นั้นได้ชี้แจง "ขอเจอลูกขั้นต่ำประมาณ 2 ครั้งต่อเดือน และต้องแจ้งก่อนเป็นเวลา 5 วัน เรื่องค่าเทอมจะช่วยกันรับผิดชอบคนละครึ่งจนน้องแม็กซ์เวลล์จบ ป.6 จากนั้นตนจะเป็นคนรับผิดชอบค่าใช้จ่ายตั้งแต่ ม.1 จนถึงระดับมหาวิทยาลัย อีกทั้งก็มีค่าประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และจะเก็บเงินออมให้ลูกด้วยในอนาคตด้วย ตนสอนลูกเขาตลอกว่าถ้าใครพูดอะไรใส่หูให้มาถามตน ล่าสุดเขาพูดเองว่า..ถ้าใครมีคนมาบอกว่าแด๊ดดี้ไม่รักแม็กซ์ แม็กซ์จะเป็นคนไปถามแด๊ดดี้เอง แค่นี้ตนสบบายใจแล้วว่าต่อให้วันหนึ่งใครจะมาพูดอะไรก็แล้วแต่เขาจะฟังตน
และเวลาคนอื่นถามเกี่ยวกับผมก็ช่วยตอบไปว่า..ไม่ขอตอบคำถามเรื่องไมค์ค่ะ เหมือนที่คุณเลือกที่จะไม่ตอบคำถามเรื่องวาดิม หลังจากนี้ไม่ต้องตอบคำถามเกี่ยวกับตนอีก ตนไม่ต้องการที่จะเกี่ยวข้อง หลังจากนี้ทำหน้าที่พ่อแม่ดูแลลูแบ่งหน้าที่กันให้ชัดเจนเรียบร้อยแค่นี้เลย"
ส่วนทาง ซาร่า ก็ขอชี้แจงว่า "หลังจากวันนี้ตนก็ขอให้มันเลิกแล้วแต่กัน ขอให้เหมือนกับได้ชดใช้เวรกรรมทั้งหมด ในมุมมองของเรื่องความรักเราไม่ประสบความสำเร็จในชีวิต แต่ในมุมความเป็นแม่ตนเชื่อล้านเปอร์เซ็นต์ ตนไม่ได้เป็นแม่ที่เลวร้ายเหมือนที่ข่าวเขียน ไม่ได้เป็นแม่ที่เอาลูกเป็นตัวประกัน รีดไถ หรือตั้งแง่ หรือกีดไก และแม็กซ์เวลล์ก็ต้องรู้ว่าตนรักเขามาก และก็อยากให้เขารักพ่อมาเหมือนที่เขารักตน เพราะฉะนั้นตนเชื่อมั้นตรงนี้ว่า ซึ่งที่ตนทำในวันนี้ตนทำทุกอย่างเพื่อเขาจริงๆ
ด้วยข่าวที่มันออกไปมันก็มีผลกระทบกับหน้าที่การงาน หลังจากนี้สิ่งที่ต้องเจอมันเยอะแต่ตนต้องขยันอดทน มันก็รู้สึกว่าหนักเหมือนกันก็อยากจะขอโอกาส ขอให้ทุกคนเปิดใจเข้าใจตนมากกว่านี้ เราต้องรับผิดชอบลูกเยอะจะมาบอกว่าคนละครึ่งมันก็จะไม่ใช่คนละครึ่งขนาดนั้น มันยังหนักสำหรับเราเราอยู่บ้านเลี้ยงลูกไม่ได้มีเวลาทำงานร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนฝั่งคุณพ่อ เพราะฉะนั้นศักยภาพในการหาเงินมันก็ต้องน้อยกว่าอยู่แล้ว"
ขอขอบคุณข้อมูลและรูปจาก วันบันเทิง - oneบันเทิง m1keangelo sarahcasinghini